ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มิถุนายน, 2013

คุณเรียบจบปริญญาโทนิเทศศาสตร์แล้วใช่มั๊ย..แล้วคุณทำแบบนี้ได้มั๊ย

คุณเรียบจบปริญญาโทนิเทศศาสตร์แล้วใช่มั๊ย..แล้วคุณทำแบบนี้ได้มั๊ย ............................................................................................................ ถ้า..คุณเป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทมหาชนขนาดยักษ์ใหญ่ เช่น CP, CPF, CPall, ปตท. ปตท.สผ. ช.การช่าง ............................................................................................................ บริษัทกำลังดำเนินโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำขนาดใหญ่ มูลค่า 6 พันล้านบาท ในเขตพื้นที่จังหวัดชลบุรีและราชบุรี..เพียงแค่ได้รับฟังประกาศแผนงานของบริษัทที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าในปี พ.ศ. 2556 ประชาชนในพื้นที่ 3,000 คน ไม่พอใจรวมตัวกันประท้วงคัดค้านโครงการ โดยการปักหลักชุมชนในพื้นที่ซึ่งจะก่อสร้างโรงไฟฟ้า ประกาศกร้าวไม่ยอมให้มีการก่อสร้างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน พร้อมทั้งมีกลุ่ม NGO ให้การสนับสนุน ...................................................................................................................... ถ้า..คุณเรียนจบปริญญาโทนิเทศศาสตร์ สถาบันการศึกษาใดทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ รวมทั้งปริญญาโ

การเรียน คือ Reality drama..!! กฏแห่งการดรามา 14 ข้อ เพื่อความสำเร็จในชีวิต

การเรียน คือ Reality drama การเรียนปริญญาโทปริญญาเอกทุกแห่ง รวมทั้งนิเทศศาสตร์ มสธ. และที่อื่นๆเปรียบเสมือนภาพยนตร์..ที่เรียกว่า "หนังชีวิต"แต่ไม่ใช่          (1) ไม่ใช่หนังชีวิตแบบ melodrama นิยายรักน้ำเน่า เจ้าหญิงเจ้าชาย          (2) ไม่ใช่ action drama ข้าเก่งคนเดียว ยิงไม่เข้าฟันไม่ออก ปราบศัตรูราบคาบด้วยกำลังสมองโง่ๆ          (3) ไม่ใช่ sentimental drama รักหวานกระจุ๋มกระจิ๋ม ในโรงเรียนมัธยม ไม่ใช่ชีวิตรักแสนหวานในมหาวิทยาลัย          (4) ไม่ใช่ sentimental comedy ตลกรักหนุ่มสาวใสก๊ก ชีวิตมีแต่ความสนุกสนาน ตลกขบขัน ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่          (5) ไม่ใช่ Thriller พิศวาสฆาตรกรรม          (6) ไม่ใช่ suspense ตามหาใครคือจอมบงการ (ทำให้นักศึกษาสอบตกหรือเรียนไม่จบ) แต่..เป็นหนังชีวิตประเภท Reality drama หนังชีวิตที่ต้องอยู่กับความจริง ทุกอย่างคือ โลกแห่งความเป็นจริง (แม้ว่าความเป็นจริงบางอย่างจะถูกประกอบาร้างขึ้นมาแบบปลอมๆ กลวงๆ และกลวงๆ) ความเป็นจริงก็คือ         (1) ต้องเรียนรู้         (2) ต้องจริงจัง         (3) ต้องทุ่มเท         (4) ไม

รถคันแรกกับเลขสวย..

รถคันแรกกับเลขสวย.. กว่าจะเก็บเงินซื้อรถใหม่ป้ายแดงมาได้คันนึง..ต้องใช้ความมานะอุตสาหะเป็นอย่างมาก..เมื่อได้มายากจึงรัก หวงแหน ดูแลเอาใจใส่..นอกจากล้าง เช็ด ขัดสีให้แววาว ซื้ออุปกรณ์มาตกแต่งให้ดูโดดเด่นสวยงามตามสไตล์ที่ชอบแล้ว..เจ้าของรถยังพยายามแสวงหา "สิ่งพิเศษ" ให้กับรถคันนี้.. ด้วยการเสาะหาเลขทะเบียนที่ดูดี ดูแตกต่าง ดูมีราคา ดูเป็นคนสำคัญในสังคม.. แต่การที่จะเลือกเลขทะเบียนรถที่ถือกันว่า "เฮงๆ" เป็นมงคลนั้นช่างยากเย็นเสียจริง..นี่เราไม่ต้องพูดถึงเลขทะเบียนวีไอพีแบบ ตอง 9999 ตอง 8888 ตอง 5555 ตอง 3333 ที่ต้องจ่ายเงินประมาณล้านกว่าบาท หรือเลขคู่อย่างเลข xxyy 8899 9988 5599 9955 หรือเลข xyxy 8989 5959 หรือเลข xyyx 8998 9889 5995 9559..ที่ต้องจ่ายเงินประมูลไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นบาท.. แต่เรากำลังพูดถึงเลขพื้นๆ ที่คนฐานะอย่างเราๆ พอจะหามาได้..การเลือกเลขนี่ยากที่สุด..เพราะมันมีอิทธิพลเกี่ยวกับความเชื่อมาเกี่ยวข้อง..และไม่ใช่ความเชื่อชุดมาตรฐานชุดเดียว แต่เป็นความเชื่อหลายชุดมีอิทธิพลร่วมกัน..ลองมาดูเลขทีละตัว เลข 1 หากเอามาคู่กันเป็น 11 อย่างนี้คนจีนก็ถือกันว่า

Best pracice ความสำเร็จในการสืบทอดทางวัฒนธรรมดนตรีไทย ของ "ปุ้ย เปิงมาง" และวง "สวัสดี"

การสืบทอดทางวัฒนธรรม..ทำอย่างไรจึงจะสำเร็จ          หากมองในแง่มุมของการถ่ายทอด (transmit) ทางวัฒนธรรม  จะเน้นการมองจากมุมมองของผู้ถ่ายทอดหรือผู้ส่งสาร หมายถึง การ ส่งผ่านรูปแบบและเนื้อหาของวัฒนธรรม (form and content of culture) จากผู้ถ่ายทอดหรือผู้ส่งสารไปยังผู้รับการถ่ายทอดหรือผู้รับสาร ในลักษณะที่ว่า ได้รับอะไรมาก็ส่งผ่านไปอย่างนั้น มีอย่างไรก็ส่งไปอย่างนั้น          แต่ หากมองในแง่มุมของ การสืบทอด (inherit) ทางวัฒนธรรม จะเน้นการมองจากมุมมองของผู้รับการถ่ายทอดหรือผู้รับสารเป็นหลัก โดยผู้รับสารจะพยายามรักษาวัฒนธรรมนั้นไว้มิให้มีการเปลี่ยนแปลง หรือต่อสู้ดิ้นรนให้มีการเปลี่ยนแปลงน้อยทีี่สุด ในลักษณะที่ว่าได้รับมาอย่างไรก็พยายามนำไปปฏิบัติอย่างนั้นให้มากที่สุด และได้รับมาอย่างไรก็พยามนำไปถ่ายทอดให้เหมือนต้นแบบมากที่สุด         ความหมายโดยสรุปของการสืบทอดทางวัฒนธรรม (cultural inheritance) คือ กระบวนการเรียนรู้และการพัฒนา (learning and development) ของมนุษย์เพื่อที่จะรักษาอัตลักษณ์ของแบบแผนของความคิด ความเชื่อ วิถีทาง และแนวปฏิบัติของตนเองไว้         โดยอาศัยกระบวนการในการสื

การสื่อข่าวฉาบฉวยแบบ Snap Shot ของข่าวออนไลน์ในยุคดิจิทัลวิถี..เราต้องการข่าวแบบนี้จริงหรือ ??

"แม่เฒ่า นางลอย พรมเวียง อายุ 63 ปี ได้ขุดหน่อไม้ในกอไผ่ แต่ดวงถึงคาด ถูกจงอางยักษ์กัดคอเสียชีวิต @SNEWS" ข่าวสั้นๆ ที่ผมพบในสื่อออนไลน์เฟสบุ๊ก ทำให้ผมฉุกใจคิดขึ้นมาว่า..         ถ้าเราเป็นผู้อ่านข่าวที่อยากรู้เรื่องราวของข่าวนี้จริงๆ ด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น เพราะสะดุดชื่อ สะดุดนามสกุล สงสัยว่าเป็นคนรู้จัก อยากติดตามผล สงสัยในความร้ายกาจของงูจงอางยักษ์ อยากรู้วิธีป้องกันอันตรายจากเจ้างูจงอางยักษ์         ผมอยากรู้อะไรมากกว่าข้อมูลสั้นที่ได้รู้แค่นี้         ผมอยากรู้ว่า..         นางลอย พรมเวียง บ้านอยู่ที่ตำบลอะไร อำเภออะไร จังหวัดอะไร จะใช่คนที่เราเคยรู้จักมาก่อนมั๊ย จะใช่คุณป้าใจดีที่เคยตักน้ำให้เราดื่มแก้กระหายเมื่อหลายปีก่อนมั๊ย นางลอยไปขุดหน่อไม้แถวไหนจึงได้เจองูจงอางยักษ์ไปขุดตอนไหน นางลอยไปขุดหน่อไม่ทำไม เป็นอาหารเช้า อาหารเย็น เพื่อยังชีพทั่วไป หรือไปขุดมาเป็นอาหารเพื่อเลี้ยงเด็กน้อยตัวเล็กๆ ที่แม่ทิ้งไว้เลี้ยงเพราะแม่เข้าไปทำงานเป็นผู้ใช้แรงงงานอยู่ในกรุงเทพฯ ตอนนี้ญาตินางลอยทำอย่างไรต่อไป         ผมอยากรู้ว่า..         1. ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของนางลอ

ความบกพร่องทางความคิดและความกลวงทางสติปัญญา ในการแก้ปัญหาการคอร์รัปชันแบบไทยๆ..การสื่อสารเพื่อปลูกฝังเรื่องการกระทำผิดคิดชั่วใส่หัวสมองเด็กอนุบาล

ความบกพร่องทางความคิดและความกลวงทางสติปัญญา ในการแก้ปัญหาการคอร์รัปชันแบบไทยๆ..การสื่อสารเพื่อปลูกฝังเรื่องการกระทำผิดคิดชั่วใส่หัวสมองเด็กอนุบาล         การรณรงค์ปลูกฝังเรื่องทุจริตใส่สมองเด็กอนุบาลในโรงเรียนอนุบาลทั่วประเทศ แบบใช้อำนาจรัฐบังคับควบคุม โรงเรียนอนุบาลทั้งของรัฐและเอกชน  สะท้อนถึงปัญหาความกลวงทางความคิด และความบกพร่องสติปัญญา ในการแก้ปัญหาคอร์รัปชันแบบไทยๆ ของท่านผู้ทรงคุณวุฒิ และท่านผู้สูงด้วยวุฒิภาวะ          ภาพเด็กหญิงเด็กชายตัวน้อยๆ วัย 3 ขวบ ร้องเพลง "ลา ลา ลา โตไปไม่โกง ลา ลา ลา โตไปไม่โกง" พร้อมแสดงท่าทางประกอบ ในขณะเข้าแถวเคารพธงชาติในตอนเช้าที่โรงเรียนอนุบาล          ภาพอาจจะดูน่ารักน่าเอ็นดูในสายตาครู อาจจะสร้างความพึงพอใจให้กับคนในหน่วยงานภาครัฐบางหน่วยในฐานะที่เป็นความสำเร็จที่น่าพอใจ           แต่ในทัศนะของผม..มันคือภาพที่สะท้อนถึงความบิดเบี้ยวของสังคม มันคือภาพสะท้อนความกลวงทางความคิดและสติปัญญาของคนในสังคมเป็นอย่างยิ่ง..!!           ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน เกิดจากการกระทำชั่วของกลุ่มบุคคล 3 ฝ่ายสมคบคิดกัน คือ ฝ่ายนักการเมือง

คิดตรงกับเราบ้างได้ไหม ??

คิดตรงกับเราบ้างได้ไหม.. คนสองฝ่ายคิดไม่ตรงกันสักที สังคมนี้จึงมีแต่ความขัดแย้ง.. ฝ่ายหนึ่งถืออำนาจรัฐ ควบคุม สั่งการทุกอย่าง เป็นฝ่ายตัดสินใจ กำหนดการแบ่งสรรปันผลประโยชน์.. อีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ถูกกระทำจากอำนาจรัฐโดยไร้อำนาจต่อรองใดๆ ปัญหาอยู่ที่ความไม่เป็นธรรมในการแบ่งปันผลประโยชน์..มีคนเพียงไม่กี่สิบคนที่ได้ผลประโยชน์ก้อนใหญ่ แบ่งเค้กกันตามใจชอบ..แต่ประชาชนส่วนใหญ่อีกหลายล้านคนไม่เคยได้รับส่วนแบ่ง..ต้องเจ็บช้ำน้ำใจ กล้ำกลืนฝืนทนมาโดยตลอด..ยามใดหมดความอดทนก็ส่งเสียงเอะอะโวยวายเอาบ้าง..แต่ก็ไร้ผล แม้จะได้ชื่อว่าเป็นเสียงส่วนใหญ่ แต่เสียงส่วนใหญ่ใช่ว่าจะเป็นฝ่ายชนะเสมอไป โดยเฉพาะการต่อสู้ในประเด็นนี้ จะเห็นได้ชัดเจนว่า เสียงส่วนใหญ่เป็นฝ่ายแพ้และเสียประโยชน์มาโดยตลอด..แต่ก็ต้องพยายามสู้กันต่อไป.. ที่ร้ายหนักคือสื่อมวลชนแทนที่จะสนใจทำข่าวติดตามสัมภาษณ์คนฝ่ายเสียงส่วนใหญ่ กลับไปให้ความสนใจสัมภาษณ์แต่ฝ่ายเสียงส่วนน้อยทุกครั้งไป..แถมยังแสดงอาการชื่นชมยินดีอย่างออกนอกหน้า จนเสียความเป็นกลางของสื่อ.. ย้อนมาพูดถึงอำนาจรัฐเข้าควบคุมกลไกทุกอย่าง..นับตั้งแต่การกำหนดกติกาในการแบ่งผลปร

รดน้ำดำหัว..มองทะลุพิธีกรรมไปสู่ความหมายที่แท้จริง

มองทะลุพิธีกรรมไปสู่ความหมาย.. พิธีกรรมหลายพิธีผู้ริเริ่มพิธีนั้นขึ้นมา ต่างมีความคิด มีเจตนา มีความมุ่งหมาย แอบแฝงไว้เสมอ..พิธีรดน้ำดำหัว บิดามารดา ปู่ย่าตายาย ผู้สูงอายุ ครูอาจารย์ และผู้มีพระคุณ..ล้วนมีความหมายแฝง..หากเราใช้สายตามองผ่านๆ เราจะเห็นแค่ผู้คน น้ำ น้ำอบไทย ดอกไม้ การไหว้ รอยยิ้ม และคำพูดอวยพร.. นั่นเป็นเพียงความหมายชั้นต้น (denotation meaning) เรารับรู้ ดีใจ ประทับใจ ชื่นชมยินดีแบบผิวเผิน..ผ่านมา แล้วก็ผ่านไป ไร้รอยจารึกแห่งคุณค่า.. แต่หากเรามองด้วยความคิดแบบวิเคราะห์ มองภาษาแห่งพิธีกรรม เพื่อค้นหาความหมายทัี่แท้จริงของสิ่งที่เรากระทำ..เราจึงจะเข้าใจ..โดยเราจะต้องอาศัยการวิเคราะห์ทำความเข้าใจความหมายชั้นที่สอง (connotation meaning) ที่ต้องมองผ่านบริบททางสังคมวัฒนธรรมที่ห่อหุ้มเราอยู่เราจึงจะเข้าใจจริงๆ.. ขอให้มองไปที่ "น้ำ" ซึ่งมีฐานะเป็นวัตถุที่ให้ความหมาย (meaning-laden objects) ขอให้ "อ่าน" (read) ความหมายของน้ำ ทั้งความหมายชั้นต้นและความหมายชั้นที่สอง นัยนี้ พิธีรดน้ำดำหัว ได้อาศัย "น้ำ" เป็น "สัญญะ" (sign) ในระบบภา