เลิกเอาปัญหาของตัวเอง ไปยัดเยียดให้เด็กเสียที..
คนเรา..พอตัวเองเจอปัญหาชีวิตอะไรที่เกิดผลกระทบกับตัวเองมากๆ รู้สึกเดือดร้อนมากๆ และตัวเองไม่มีปัญญาแก้ไข..ก็เลือกใช้ชุดความคิดแบบโง่ๆ และง่ายๆ ว่า..
ต้องเอาไปยัดใส่สมองเด็ก..ตั้งแต่ชั้นอนุบาล และประถม จึงจะแก้ปัญหาได้ !!
เช่น ปัญหานักการเมืองฉ้อโกง ทุจริตคอร์รัปชัน ปัญหาความเห็นแก่ตัวเอารัดเอาเปรียบเบียดเบียนผู้อื่น ปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ทำลายสิ่งแวดล้อม ปัญหาความฟุ้งเฟ้อใช้สินค้าฟุ่มเฟือย ปัญหาการเสพติดโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ปัญหาการหลงรูปตัวเองหรือเซลฟี ฯลฯ
ทำไมคุณไม่คิดที่จะริเริ่มแก้ไขที่ "ตัวเอง" เสียก่อนเป็นอันดับแรก
เด็ก..ไม่ใช่เทวดา
เด็ก..ไม่ใช่พระเจ้า
เด็ก..ไม่ใช่รากเหง้าของปัญหา
เด็ก..ไม่ใช่พระเจ้า
เด็ก..ไม่ใช่รากเหง้าของปัญหา
คุณนั่นแหละ..คือ..ตัวสร้างปัญหา
เวลาคุณเห็นลูกคุณถือกระเป๋านักเรียนใบใหญ่แบกแทบไม่ไหวไปโรงเรียน
พวกคุณก่นด่า..ว่าโรงเรียน เออแต่จะยัดเยียดความรู้ให้เด็ก จนเด็กไม่ได้พักผ่อน กลับมาบ้านต้องทำการบ้าน ต้องทำกิจกรรม จนไม่มีเวลาใช้ชีวิตกับพ่อแม่
พวกคุณก่นด่า..ว่าโรงเรียน เออแต่จะยัดเยียดความรู้ให้เด็ก จนเด็กไม่ได้พักผ่อน กลับมาบ้านต้องทำการบ้าน ต้องทำกิจกรรม จนไม่มีเวลาใช้ชีวิตกับพ่อแม่
ย้อนถามตัวเองดูบ้าง..ใครเป็นคนคิดให้ใส่วิชาความรู้ต่างๆ นานาเข้าไปในโรงเรียน เข้าไปในห้องเรียน เข้าไปในสมองน้อยๆ ของเด็ก..นักวิชาการ นักธุรกิจ เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นักการเมือง และข้าราชการที่จ้องทำโครงการของบประมาณอบรมเด็ก..พวกคุณหรือเปล่าที่..คิดยัดเยียดทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณคิดเอาเอง คาดเดาเอาเองว่ามันจะดี..ใสเข้าไปในสมองเด็ก
เพียงเพราะคุณมีตรรกะความคิดแบบง่ายๆ ว่า..ต้องแก้ไขปัญหาตั้งแต่ยังเด็ก
เลิกคิดง่ายๆ เลิกวิ่งหนีปัญหา
เลิกคิดง่ายๆ..เลิกเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นปัญหาของคุณ..ไปยัดใส่สมองเด็กเสียที
เลิกคิดง่ายๆ..เลิกเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นปัญหาของคุณ..ไปยัดใส่สมองเด็กเสียที
2 มิถุนายน 2557
9.59 น.
9.59 น.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น