ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กระบวนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการสื่อสาร Research and Development R&D

กระบวนการวิจัยและพัฒนา

ประกอบด้วยกระบวนการใหญ่ 4 กระบวนการ ดังนี้การตั้งสมมุติฐาน และการค้นหาความจริง (Explore, Hypothesize, and Clarify)เป็นการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเพื่อศึกษาลักษณะ องค์ประกอบ หน้าที่ ความสัมพันธ์ ความเชื่อมโยงระหว่างปัญหาและสาเหตุของปัญหาโดยการวิจัยเชิงสำรวจเพื่อรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากนั้นนำข้อมูลมาตั้งประเด็นปัญหาที่จะศึกษา กำหนดปัญหาวิจัย ตั้งคำถามวิจัยตั้งสมมุติฐาน เพื่อกำหนดทิศทางของการศึกษาการดำเนินการสำรวจรวบรวมข้อมูลให้ได้ความจริงที่กระจ่างชัดเพื่อนำความจริงนั้นไปใช้ในการดำเนินงานขั้นต่อไปการพัฒนา และการทดสอบ (Design, Develop, and Test) เป็นการสร้างสรรค์ใหม่ ออกแบบใหม่ เพื่อค้นหาสิ่งที่จะใช้ในการแก้ปัญหา ตอบปัญหาวิจัย ตอบคำถามวิจัย สร้างและพัฒนาสิ่งที่เป็นชิ้นงานต้นแบบ ตอบปัญหาวิจัย ตอบคำถามวิจัย สร้างและพัฒนาสิ่งที่เป็นชิ้นงานต้นแบบ ตอบปัญหาวิจัย ตอบคำถามวิจัย สร้างและพัฒนาสิ่งที่เป็นชิ้นงานต้นแบบ (prototype)นำชิ้นงานต้นแบบไปทดสอบประสิทธิภาพ ทดสอบการใช้งานกับสถานการณ์จำลอง เพื่อประเมิน ค้นหาปัญหา ค้นหาข้อบกพร่อง ทำการสังเกตเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูล นำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพปรับปรุงแก้ไขชิ้นงานต้นแบบให้ดีขึ้น มีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีความแม่นยำมากขึ้นมีความเที่ยงตรงมากขึ้น มีความเชื่อถือได้มากขึ้น แก้ปัญหาได้จริงตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้ แล้วนำชิ้นงานต้นแบบไปสร้างและผลิตเป็นผลิตภัณฑ์บริการ กระบวนการ ในจำนวนมากตามที่ต้องการ ซึ่งมีคุณภาพและมาตรฐานเดียวกันเพื่อนำไปเผยแพร่ให้ผู้ใช้งานได้ใช้งานจริง ในสถานการณ์จริงการศึกษา การทดสอบประสิทธิภาพ และการปรับปรุง (Implement, Study, Efficacy,and Improve)เป็นการนำผลิตภัณฑ์ (products) บริการ (services) และกระบวนการ (processes)ไปเผยแพร่ให้ผู้ใช้งานได้ใช้งานจริงในสถานการณ์จริง (Implement) โดยทำการศึกษา (Stud) ติดตามและประเมินผลจากผู้ใช้งาน มีการพัฒนาสร้างความมีประสิทธิภาพ มีการพัฒนาสร้างความมีประสิทธิภาพ มีการพัฒนาสร้างความมีประสิทธิภาพ (Efficacy) ให้สูงขึ้น มีการปรับปรุง (Improve) ให้ดีขึ้น (Synthesize and Theorize)เป็นตั้งคำถามต่อประเด็นปัญหาใดปัญหาหนึ่ง เรียกว่าคำถามวิจัยนำประเด็นปัญหานั้นไปศึกษาในทางทฤษฎี สังเคราะห์ปัญหาออกมาในแง่มุมทางทฤษฎีเพื่อที่จะใช้เป็นกรอบในการอธิบายปัญหาและตอบคำถามวิจัยนำทฤษฎีมาใช้ในการสร้างกรอบทฤษฎีที่นำไปสู่การดำเนินการวิจัยโดยการทำให้สิ่งที่ศึกษาสามารถดำเนินการศึกษาได้ (operationalization) โดยการนิยามศัพท์เชิงปฏิบัติการ การออกแบบการวัดตัวแปร
4 ขั้นตอน ได้แก่
การสร้างความคิด (Idea Creation) ทำการศึกษาวิเคราะห์และสังเคราะห์สถานการณ์ (situationanalysis) สภาพปัญหาและความต้องการของมนุษย์ องค์กร ชุมชน สาธารณชน และสังคม ซึ่งอาจใช้การวิจัยเบื้องต้น เช่น วิจัยเชิงสำรวจเพื่อทราบข้อมูลที่จะนำมาใช้ในการสร้างแนวคิดในการวิจัยและพัฒนาต่อไป แล้วนำผลการศึกษาสำรวจมาใช้ในการสร้างความคิดในการปรับปรุง พัฒนา สร้างสรรค์ใหม่
และสังคม ซึ่งอาจใช้การวิจัยเบื้องต้น เช่นวิจัยเชิงสำรวจเพื่อทราบข้อมูลที่จะนำมาใช้ในการสร้างแนวคิดในการวิจัยและพัฒนาต่อไปแล้วนำผลการศึกษาสำรวจมาใช้ในการสร้างความคิดในการปรับปรุง พัฒนา สร้างสรรค์ใหม่ และสังคม ซึ่งอาจใช้การวิจัยเบื้องต้น เช่นวิจัยเชิงสำรวจเพื่อทราบข้อมูลที่จะนำมาใช้ในการสร้างแนวคิดในการวิจัยและพัฒนาต่อไปแล้วนำผลการศึกษาสำรวจมาใช้ในการสร้างความคิดในการปรับปรุง พัฒนา สร้างสรรค์ใหม่ (Initial Experimentation) เป็นการออกแบบ สร้าง และพัฒนาชิ้นงาน “ต้นแบบ” ขึ้นมา เพื่อวิเคราะห์และประเมินประสิทธิภาพการทำงานและการใช้งาน โดยทีมงานและผู้เชี่ยวชาญและพัฒนาชิ้นงาน “ต้นแบบ” ขึ้นมา เพื่อวิเคราะห์และประเมินประสิทธิภาพการทำงานและการใช้งานโดยทีมงานและผู้เชี่ยวชาญและพัฒนาชิ้นงาน “ต้นแบบ” ขึ้นมา เพื่อวิเคราะห์และประเมินประสิทธิภาพการทำงานและการใช้งานโดยทีมงานและผู้เชี่ยวชาญ(Feasibility Determination)เป็นการนำชิ้นงานต้นแบบไปทดลองใช้งานกับกลุ่มตัวอย่างอาจเป็นกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก หรือกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ทำการวิจัยเก็บข้อมูลโดยการสังเกต เก็บข้อมูลเชิงปริมาณหรือเชิงคุณภาพหรือใช้แบบผสมวิธีทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เพื่อศึกษาถึงประสิทธิภาพการใช้งานความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานการประเมินจุดดี จุดด้อย และจุดที่ต้องแก้ไขปรับปรุงแล้วนำผลการประเมินไปแก้ไขปรับปรุงชิ้นงานต้นแบบให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จึงนำไปสร้างเป็นชิ้นงานต้นแบบที่สมบูรณ์ โดยให้ผู้เชี่ยวชาญทำการประเมินและควรมีการทดสอบซ้ำ แก้ไขปรับปรุงให้สมบูรณ์ ก่อนที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ออกมาในปริมาณมากๆ เพื่อนำไปเผยแพร่ต่อไปคือ ส่วนแรกเป็นการวิจัย และส่วนที่สองเป็นการพัฒนาเพื่อให้นักศึกษาและผู้สนใจเข้าใจกระบวนการดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้นและสามารถนำไปปฏิบัติได้ในการศึกษาและทำการวิจัยผู้เขียนจึงขออธิบายกระบวนการวิจัยและพัฒนาโดยแบ่งออกเป็นสองส่วนดังกล่าวดังต่อไปนี้การสร้างกรอบแนวคิดการวิจัย การทบทวนวรรณกรรม การตั้งคำถามวิจัย การตั้งสมมุติฐานเพื่อนำไปสู่การทำวิจัย ต่อจากนั้นเป็นขั้นตอนการดำเนินงานวิจัยประกอบด้วยการสำรวจการสังเกต การทดลอง จนได้ผลการวิจัย ทำการสังเคราะห์ผลการวิจัยเพื่อให้ได้ชุดความรู้ใหม่การออกแบบชิ้นงาน (Design)การนำชุดความรู้ใหม่ที่ได้จากกระบวนการวิจัยไปใช้ในการออกแบบชิ้นงาน (Design) ในขั้นตอนการออกแบบชิ้นงานมีหลายขั้นตอน นับตั้งแต่การออกแบบสร้างสรรค์ (design)การปรับปรุง (improve)การแก้ไขให้ชิ้นงานต้นแบบมีความสมบูรณ์ระดับหนึ่ง นำชิ้นงานต้นแบบฉบับร่างไปทำการทดสอบ เพื่อหาความแม่นยำ ความตรง ความเที่ยงความเชื่อได้ แล้วนำผลการศึกษามาทำการปรับปรุงชิ้นงานต้นแบบฉบับร่างอีกครั้งหนึ่งบางครั้งอาจถึงกับต้องออกแบบใหม่หรือออกแบบซ้ำอีกครั้ง (Re-design) เพื่อให้ได้ชิ้นงานต้นแบบที่ดีขึ้น จนกระทั่งทีมงานวิจัยมีความพอใจ มีความเชื่อมั่นในชิ้นงานต้นแบบมีความเชื่อมั่นในชิ้นงานต้นแบบมีความเชื่อมั่นในชิ้นงานต้นแบบ(Improve) เป็นการปรับปรุงชิ้นงานต้นแบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีคุณภาพสูงขึ้น ตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคให้มากขึ้น
มีคุณภาพสูงขึ้น ตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคให้มากขึ้นมีคุณภาพสูงขึ้น ตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคให้มากขึ้น(Build)เป็นการลงมือสร้างชิ้นงานที่จะใช้งานจริง ในรูปแบบของนำผลงานการออกแบบนี้ไปทำการสร้าง (build) ชิ้นงานต้นแบบตัวจริง จนสำเร็จออกมา โดยมากนิยมเรียกว่า “ชิ้นงานต้นแบบ” หรือ จนสำเร็จออกมา โดยมากนิยมเรียกว่า “ชิ้นงานต้นแบบ” หรือ จนสำเร็จออกมา โดยมากนิยมเรียกว่า “ชิ้นงานต้นแบบ” หรือ Prototype ทีมงานวิจัยจะต้องนำชิ้นงานต้นแบบนั้นไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ วิพากษ์ วิจารณ์วิเคราะห์ ให้ความคิดเห็น เพื่อหาสิ่งที่ต้องปรับปรุงเพิ่มเติมโดยทีมงานวิจัยต้องนำชิ้นงานต้นแบบไปทดลองใช้งาน (Trial) กับกลุ่มตัวอย่างเพื่อประเมินผล แล้วนำผลที่ได้มาปรับปรุงชิ้นงานต้นแบบให้ดียิ่งขึ้น สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ก่อนที่จะปล่อยออกไปให้ผู้ใช้งานทดลองใช้จริง สำหรับชิ้นงานที่จะปล่อยออกไปให้ผู้ใช้งานทดลองใช้ครั้งแรกนิยมเรียกว่าชิ้นงาน “เบต้า” (Beta) หรือ ชิ้นงานต้นแบบขั้นที่หนึ่งแล้วนำผลที่ได้มาปรับปรุงชิ้นงานต้นแบบให้ดียิ่งขึ้น สมบูรณ์ยิ่งขึ้นก่อนที่จะปล่อยออกไปให้ผู้ใช้งานทดลองใช้จริงสำหรับชิ้นงานที่จะปล่อยออกไปให้ผู้ใช้งานทดลองใช้ครั้งแรกนิยมเรียกว่าชิ้นงาน“เบต้า” (Beta) หรือ ชิ้นงานต้นแบบขั้นที่หนึ่งแล้วนำผลที่ได้มาปรับปรุงชิ้นงานต้นแบบให้ดียิ่งขึ้น สมบูรณ์ยิ่งขึ้นก่อนที่จะปล่อยออกไปให้ผู้ใช้งานทดลองใช้จริงสำหรับชิ้นงานที่จะปล่อยออกไปให้ผู้ใช้งานทดลองใช้ครั้งแรกนิยมเรียกว่าชิ้นงาน“เบต้า” (Beta) หรือ ชิ้นงานต้นแบบขั้นที่หนึ่ง(Launch) เป็นการนำชิ้นงานต้นแบบไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน ให้ผู้ใช้งาน ให้ประชาชน ได้ทดลองนำไปใช้งาน เพื่อทดสอบการใช้งาน และประเมินผลการใช้งานโดยผู้ใช้งาน ให้ผู้ใช้งาน ให้ประชาชน ได้ทดลองนำไปใช้งาน เพื่อทดสอบการใช้งานและประเมินผลการใช้งานโดยผู้ใช้งาน ให้ผู้ใช้งาน ให้ประชาชน ได้ทดลองนำไปใช้งาน เพื่อทดสอบการใช้งานและประเมินผลการใช้งานโดยผู้ใช้งาน (user) ในสถานการณ์จริง ทีมงานวิจัยจะทำการเก็บข้อมูล ติดตามผลและประเมินผล เสียงสะท้อนจากผู้ใช้งานความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ความสามารถในการใช้งานได้จริงความสะดวก ความเชื่อถือได้ ความมั่นใจ ความปลอดภัย ความพึงพอใจเพื่อนำข้อมูลที่ได้มาใช้ในการปรับปรุงชิ้นงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป6 เดือน หรือ 1 ปี ก็ได้ผลผลิตของโครงการออกมาแล้ว แต่บางโครงการอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะได้ผลผลิตออกมากระบวนการวิจัยและพัฒนาสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนานวัตกรรมใหม่
ก็ได้ผลผลิตของโครงการออกมาแล้วแต่บางโครงการอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะได้ผลผลิตออกมากระบวนการวิจัยและพัฒนาสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนานวัตกรรมใหม่ก็ได้ผลผลิตของโครงการออกมาแล้วแต่บางโครงการอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะได้ผลผลิตออกมากระบวนการวิจัยและพัฒนาสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนานวัตกรรมใหม่แต่มีกระบวนการบางอย่างที่เพิ่มเติม การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมมีขั้นตอนการดำเนินงาน 6 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้ (โปรดดูภาพที่ 1)[1]ขั้นตอน ดังต่อไปนี้ (โปรดดูภาพที่ 1)[1]ขั้นตอน ดังต่อไปนี้ (โปรดดูภาพที่ 1)[1]การหล่อหลอมความคิด (Foster idea) ทีมงามช่วยกันระดมความคิดถึงสถานการณ์ ปัญหาที่กำลังเผชิญ ทำความเข้าใจสาเหตุและบริบทแวดล้อมที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ โดยมุ่งเน้นไปที่ปัญหาใดปัญหาหนึ่ง หลังจากนั้นบีบประเด็นให้แคบลงไปถึงประเด็นที่สำคัญ และเป็นแกนหลักของของโอกาสความเป็นไปได้ และทีมงานให้ความสนใจ 
ปัญหาที่กำลังเผชิญ ทำความเข้าใจสาเหตุและบริบทแวดล้อมที่กำลังเผชิญหน้าอยู่โดยมุ่งเน้นไปที่ปัญหาใดปัญหาหนึ่งหลังจากนั้นบีบประเด็นให้แคบลงไปถึงประเด็นที่สำคัญและเป็นแกนหลักของของโอกาสความเป็นไปได้ และทีมงานให้ความสนใจ  ปัญหาที่กำลังเผชิญ ทำความเข้าใจสาเหตุและบริบทแวดล้อมที่กำลังเผชิญหน้าอยู่โดยมุ่งเน้นไปที่ปัญหาใดปัญหาหนึ่งหลังจากนั้นบีบประเด็นให้แคบลงไปถึงประเด็นที่สำคัญและเป็นแกนหลักของของโอกาสความเป็นไปได้ และทีมงานให้ความสนใจ  (Focus idea)รวบรวมความคิด ค้นหาความคิดที่มีศักยภาพ ทั้งนี้อาจต้องกลับไปพิจารณาผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่เพื่อที่จะค้นหาว่ามีไอเดียอะไรที่จะพัฒนาให้ดีขึ้นได้หรือไม่ideas) เลือกความคิดที่ดีที่สุด นำมาพัฒนาต่อ ความคิดนี้อาจเชื่อมโยงเข้ากับผลการวิจัยที่มีอยู่ หรือทำการวิจัยเชิงสำรวจ เช่น วิจัยสำรวจตลาด ทำให้ความคิดนั้นแคบลงด้วยการศึกษาผลการวิจัย เลือกประเด็นที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรง และต่อยอดความคิดไปถึงสิ่งที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด โดยเฉพาะความเป็นไปได้ในทางการตลาด
ความคิดนี้อาจเชื่อมโยงเข้ากับผลการวิจัยที่มีอยู่ หรือทำการวิจัยเชิงสำรวจ เช่นวิจัยสำรวจตลาด ทำให้ความคิดนั้นแคบลงด้วยการศึกษาผลการวิจัยเลือกประเด็นที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงและต่อยอดความคิดไปถึงสิ่งที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดโดยเฉพาะความเป็นไปได้ในทางการตลาดความคิดนี้อาจเชื่อมโยงเข้ากับผลการวิจัยที่มีอยู่ หรือทำการวิจัยเชิงสำรวจ เช่นวิจัยสำรวจตลาด ทำให้ความคิดนั้นแคบลงด้วยการศึกษาผลการวิจัยเลือกประเด็นที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงและต่อยอดความคิดไปถึงสิ่งที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดโดยเฉพาะความเป็นไปได้ในทางการตลาด(Prototypes and Trails) นำความคิดที่ตัดสินใจเลือกแล้วมาสร้างเป็นชิ้นงานต้นแบบ (prototypes) ที่สามารถนำไปทดลองใช้ได้ เมื่อนำชิ้นงานต้นแบบไปทดลองใช้ เมื่อนำชิ้นงานต้นแบบไปทดลองใช้ เมื่อนำชิ้นงานต้นแบบไปทดลองใช้ (trials) ตั้งคำถามที่ยากและซับซ้อนขึ้นเกี่ยวกับชิ้นงานต้นแบบ เช่น หากนำไปให้ลูกค้าหรือประชาชนใช้งานจริงจะเกิดปัญหาอะไรบ้าง จะทำให้ผู้ใช้สนใจทดลองใช้ผลิตภัณฑ์นี้ได้อย่างไร จะทำให้ผู้ใช้ใช้งานได้ถูกต้องได้อย่างไร จะทำให้ผู้ใช้เกิดความคุ้นเคยอย่างไร จะทำให้ผู้ใช้เกิดการยอมรับอย่างไร ถ้าหากต้องการผลิตขึ้นจำนวนมากจะมีปัญหาอะไร หากมีผู้ใช้ใช้งานพร้อมกันจำนวนมากในเวลาเดียวกันจะมีปัญหาอะไรหรือไม่ จะหาทางรับมืออย่างไร จะแก้ปัญหาอย่างไร ในขั้นตอนนี้ต้องทำงาน ปรึกษาร่วมกันหลายฝ่ายทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่าย สร้างสรรค์ฝ่ายออกแบบ ฝ่ายเทคโนโลยี ฝ่ายคอมพิวเตอร์ ฝ่ายการตลาด ฝ่ายขาย ฝ่ายบริการลูกค้า ฝ่ายขนส่ง ฝ่ายสนับสนุนการดำเนินงาน ฝ่ายเงินทุน ฝ่ายประเมินผล
เช่น หากนำไปให้ลูกค้าหรือประชาชนใช้งานจริงจะเกิดปัญหาอะไรบ้างจะทำให้ผู้ใช้สนใจทดลองใช้ผลิตภัณฑ์นี้ได้อย่างไรจะทำให้ผู้ใช้ใช้งานได้ถูกต้องได้อย่างไร จะทำให้ผู้ใช้เกิดความคุ้นเคยอย่างไรจะทำให้ผู้ใช้เกิดการยอมรับอย่างไร ถ้าหากต้องการผลิตขึ้นจำนวนมากจะมีปัญหาอะไรหากมีผู้ใช้ใช้งานพร้อมกันจำนวนมากในเวลาเดียวกันจะมีปัญหาอะไรหรือไม่จะหาทางรับมืออย่างไร จะแก้ปัญหาอย่างไร ในขั้นตอนนี้ต้องทำงานปรึกษาร่วมกันหลายฝ่ายทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่าย สร้างสรรค์ฝ่ายออกแบบ ฝ่ายเทคโนโลยีฝ่ายคอมพิวเตอร์ ฝ่ายการตลาด ฝ่ายขาย ฝ่ายบริการลูกค้า ฝ่ายขนส่ง ฝ่ายสนับสนุนการดำเนินงานฝ่ายเงินทุน ฝ่ายประเมินผลเช่น หากนำไปให้ลูกค้าหรือประชาชนใช้งานจริงจะเกิดปัญหาอะไรบ้างจะทำให้ผู้ใช้สนใจทดลองใช้ผลิตภัณฑ์นี้ได้อย่างไรจะทำให้ผู้ใช้ใช้งานได้ถูกต้องได้อย่างไร จะทำให้ผู้ใช้เกิดความคุ้นเคยอย่างไรจะทำให้ผู้ใช้เกิดการยอมรับอย่างไร ถ้าหากต้องการผลิตขึ้นจำนวนมากจะมีปัญหาอะไรหากมีผู้ใช้ใช้งานพร้อมกันจำนวนมากในเวลาเดียวกันจะมีปัญหาอะไรหรือไม่จะหาทางรับมืออย่างไร จะแก้ปัญหาอย่างไร ในขั้นตอนนี้ต้องทำงานปรึกษาร่วมกันหลายฝ่ายทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่าย สร้างสรรค์ฝ่ายออกแบบ ฝ่ายเทคโนโลยีฝ่ายคอมพิวเตอร์ ฝ่ายการตลาด ฝ่ายขาย ฝ่ายบริการลูกค้า ฝ่ายขนส่ง ฝ่ายสนับสนุนการดำเนินงานฝ่ายเงินทุน ฝ่ายประเมินผลการดำเนินงานด้านการตลาด และกิจกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Regulatory,marketing, product development activities) เป็นการทำให้ผลิตภัณฑ์เกิดเป็นรูปร่างขึ้นมา เพื่อที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากการวิจัยกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาดได้ เพื่อให้ผู้บริโภคซื้อไปใช้งานได้จริง ที่สำคัญคือ ทุกสิ่งจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ทั้งเรื่องคุณภาพ ประสิทธิภาพ การใช้งานได้ผลดี มีความทนทาน ผ่านการตรวจสอบ ยืนยันเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพเรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะนำออกสู่ตลาด หรือนำออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนเพื่อให้นำไปใช้งานได้จริง ในขั้นตอนนี้กรณีเป็นผลิตภัณฑ์ สินค้า และบริการ ฝ่ายการตลาดจะต้องเริ่มดำเนินการพัฒนากลยุทธ์การตลาด รวมทั้งเตรียมการด้านราคา ช่องทางการจัดจำหน่าย ช่องทางการเผยแพร่ พนักงานขาย การฝึกฝนทักษะการบริการให้พร้อมทุกด้านเพื่อที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากการวิจัยกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาดได้เพื่อให้ผู้บริโภคซื้อไปใช้งานได้จริง ที่สำคัญคือทุกสิ่งจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ทั้งเรื่องคุณภาพ ประสิทธิภาพการใช้งานได้ผลดี มีความทนทาน ผ่านการตรวจสอบยืนยันเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพเรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะนำออกสู่ตลาดหรือนำออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนเพื่อให้นำไปใช้งานได้จริงในขั้นตอนนี้กรณีเป็นผลิตภัณฑ์ สินค้า และบริการฝ่ายการตลาดจะต้องเริ่มดำเนินการพัฒนากลยุทธ์การตลาด รวมทั้งเตรียมการด้านราคาช่องทางการจัดจำหน่าย ช่องทางการเผยแพร่ พนักงานขาย การฝึกฝนทักษะการบริการให้พร้อมทุกด้านเพื่อที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากการวิจัยกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาดได้เพื่อให้ผู้บริโภคซื้อไปใช้งานได้จริง ที่สำคัญคือทุกสิ่งจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ทั้งเรื่องคุณภาพ ประสิทธิภาพการใช้งานได้ผลดี มีความทนทาน ผ่านการตรวจสอบยืนยันเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพเรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะนำออกสู่ตลาดหรือนำออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนเพื่อให้นำไปใช้งานได้จริงในขั้นตอนนี้กรณีเป็นผลิตภัณฑ์ สินค้า และบริการฝ่ายการตลาดจะต้องเริ่มดำเนินการพัฒนากลยุทธ์การตลาด รวมทั้งเตรียมการด้านราคาช่องทางการจัดจำหน่าย ช่องทางการเผยแพร่ พนักงานขาย การฝึกฝนทักษะการบริการให้พร้อมทุกด้าน(Launch) เป็นการเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์ที่จะก้าวเข้าสู่ ผลิตภัณฑ์ต้องตอบคำถามวิจัย ผลิตภัณฑ์ต้องตอบคำถามวิจัย ผลิตภัณฑ์ต้องตอบคำถามวิจัย (research question) ตามที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งลิตภัณฑ์จะต้องถูกทดสอบขนานใหญ่ที่สุด นั่นคือ การนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดตลาด เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้งานจริง เมื่อผลิตภัณฑ์ถูกนำเข้าสู่ตลาด จะต้องทำการประเมินผลิตภัณฑ์ควบคู่กันไปโดยทันทีและจะทำการประเมินต่อเนื่องไป จนกระทั่งได้รับคำตอบในด้านต่าง ๆ เช่น คุณภาพ ประสิทธิภาพ ความสามารถใช้งานได้ ความสามารถในการแก้ปัญหาได้ ความสามารถในการสร้างความสะดวก ความสามารถในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภค แม้กระทั่งอาจถึงขั้นต้องนำผลิตภัณฑ์กลับมาออกแบบใหม่อีกครั้ง (re-design) เพื่อปรับปรุงบางจุดที่ยังบกพร่องถ้าจำเป็นต้องทำ ในขั้นตอนนี้เสียงสะท้อนอาจมีหลากหลายจำเป็นต้องมีการประมวลผลเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับปรุงพัฒนาต่อไป question) ตามที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งลิตภัณฑ์จะต้องถูกทดสอบขนานใหญ่ที่สุด นั่นคือ การนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดตลาด เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้งานจริง เมื่อผลิตภัณฑ์ถูกนำเข้าสู่ตลาด จะต้องทำการประเมินผลิตภัณฑ์ควบคู่กันไปโดยทันทีและจะทำการประเมินต่อเนื่องไป จนกระทั่งได้รับคำตอบในด้านต่าง ๆ เช่น คุณภาพ ประสิทธิภาพ ความสามารถใช้งานได้ ความสามารถในการแก้ปัญหาได้ ความสามารถในการสร้างความสะดวก ความสามารถในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภค แม้กระทั่งอาจถึงขั้นต้องนำผลิตภัณฑ์กลับมาออกแบบใหม่อีกครั้ง ซึ่งลิตภัณฑ์จะต้องถูกทดสอบขนานใหญ่ที่สุด นั่นคือ การนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดตลาดเพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้งานจริง เมื่อผลิตภัณฑ์ถูกนำเข้าสู่ตลาดจะต้องทำการประเมินผลิตภัณฑ์ควบคู่กันไปโดยทันทีและจะทำการประเมินต่อเนื่องไปจนกระทั่งได้รับคำตอบในด้านต่าง ๆ เช่น คุณภาพ ประสิทธิภาพ ความสามารถใช้งานได้ความสามารถในการแก้ปัญหาได้ ความสามารถในการสร้างความสะดวกความสามารถในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภคแม้กระทั่งอาจถึงขั้นต้องนำผลิตภัณฑ์กลับมาออกแบบใหม่อีกครั้ง (re-design) เพื่อปรับปรุงบางจุดที่ยังบกพร่องถ้าจำเป็นต้องทำ ในขั้นตอนนี้เสียงสะท้อนอาจมีหลากหลายจำเป็นต้องมีการประมวลผลเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับปรุงพัฒนาต่อไป ในขั้นตอนนี้เสียงสะท้อนอาจมีหลากหลายจำเป็นต้องมีการประมวลผลเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับปรุงพัฒนาต่อไปquestion) ตามที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งลิตภัณฑ์จะต้องถูกทดสอบขนานใหญ่ที่สุด นั่นคือ การนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดตลาด เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้งานจริง เมื่อผลิตภัณฑ์ถูกนำเข้าสู่ตลาด จะต้องทำการประเมินผลิตภัณฑ์ควบคู่กันไปโดยทันทีและจะทำการประเมินต่อเนื่องไป จนกระทั่งได้รับคำตอบในด้านต่าง ๆ เช่น คุณภาพ ประสิทธิภาพ ความสามารถใช้งานได้ ความสามารถในการแก้ปัญหาได้ ความสามารถในการสร้างความสะดวก ความสามารถในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภค แม้กระทั่งอาจถึงขั้นต้องนำผลิตภัณฑ์กลับมาออกแบบใหม่อีกครั้ง ซึ่งลิตภัณฑ์จะต้องถูกทดสอบขนานใหญ่ที่สุด นั่นคือ การนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดตลาดเพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้งานจริง เมื่อผลิตภัณฑ์ถูกนำเข้าสู่ตลาดจะต้องทำการประเมินผลิตภัณฑ์ควบคู่กันไปโดยทันทีและจะทำการประเมินต่อเนื่องไปจนกระทั่งได้รับคำตอบในด้านต่าง ๆ เช่น คุณภาพ ประสิทธิภาพ ความสามารถใช้งานได้ความสามารถในการแก้ปัญหาได้ ความสามารถในการสร้างความสะดวกความสามารถในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภคแม้กระทั่งอาจถึงขั้นต้องนำผลิตภัณฑ์กลับมาออกแบบใหม่อีกครั้ง ซึ่งลิตภัณฑ์จะต้องถูกทดสอบขนานใหญ่ที่สุด นั่นคือ การนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดตลาดเพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้งานจริง เมื่อผลิตภัณฑ์ถูกนำเข้าสู่ตลาดจะต้องทำการประเมินผลิตภัณฑ์ควบคู่กันไปโดยทันทีและจะทำการประเมินต่อเนื่องไปจนกระทั่งได้รับคำตอบในด้านต่าง ๆ เช่น คุณภาพ ประสิทธิภาพ ความสามารถใช้งานได้ความสามารถในการแก้ปัญหาได้ ความสามารถในการสร้างความสะดวกความสามารถในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภคแม้กระทั่งอาจถึงขั้นต้องนำผลิตภัณฑ์กลับมาออกแบบใหม่อีกครั้ง (re-design) เพื่อปรับปรุงบางจุดที่ยังบกพร่องถ้าจำเป็นต้องทำ ในขั้นตอนนี้เสียงสะท้อนอาจมีหลากหลายจำเป็นต้องมีการประมวลผลเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับปรุงพัฒนาต่อไป ในขั้นตอนนี้เสียงสะท้อนอาจมีหลากหลายจำเป็นต้องมีการประมวลผลเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับปรุงพัฒนาต่อไปในขั้นตอนนี้เสียงสะท้อนอาจมีหลากหลายจำเป็นต้องมีการประมวลผลเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับปรุงพัฒนาต่อไป          1. การสำรวจ           2. การออกแบบ           3. การนำไปใช้          4. การสังเคราะห์และการสร้างทฤษฎี   กระบวนการวิจัยและพัฒนา           กระบวนการวิจัยและพัฒนา แบ่งออกเป็น          1.          2. การสร้างและการทดลอง          3. ทดสอบหาความเป็นไปได้

         4. การสร้างชิ้นงานต้นแบบที่สมบูรณ์ (FinalApplication) เมื่อได้ผลการประเมินชิ้นงานต้นแบบแล้ว

เนื่องจากกระบวนการวิจัยและพัฒนาแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่

เมื่อพิจารณาจากแผนภาพดังกล่าวเราสามารถอธิบายกระบวนการวิจัยและพัฒนาโดยแยกให้เห็นขั้นตอนของกระบวนการวิจัยและขั้นตอนของกระบวนการพัฒนาได้ กระบวนการวิจัย (Research Process) ประกอบด้วย กระบวนการพัฒนา (Development Process) ประกอบด้วย          1. กระบวนการออกแบบชิ้นงาน แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนย่อย คือ              1.1              1.2 การทดสอบ (Test) เมื่อออกแบบชิ้นงานต้นแบบฉบับร่างได้แล้ว              1.3 การปรับปรุง          2. กระบวนการสร้าง          ก่อนที่จะปล่อยชิ้นงานต้นแบบออกไปให้ผู้ใช้งานทดลองใช้จริง          3. กระบวนการเผยแพร่ชิ้นงานต้นแบบ          ในระหว่างการปล่อยชิ้นงานต้นแบบตัวเบต้าให้ประชาชนผู้ใช้งานทดลองใช้งาน   ขั้นตอนการดำเนินงานในการวิจัยและพัฒนา          กระบวนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมบางโครงการใช้เวลาเพียง          การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอาศัยแนวทางเดียวกันกับกระบวนการวิจัยทั่วไป          1.          2. การมุ่งความสนใจไปที่ความคิดใดความคิดหนึ่ง          3. การพัฒนาความคิด (Develop          4. การสร้างชิ้นงานต้นแบบและทำการทดลอง          5. การควบคุมการดำเนินการ          6. การเผยแพร่นวัตกรรมออกสู่ตลาด


AMAZON..เพิ่งอ่านข่าวบ่ายวันนี้ Amazon (ไม่ใช่ร้านกาแฟตรานกแก้วในประเทศไทย) ประกาศจะสร้างคนเอง จะพัฒนาทักษะคนเอง โดยจะพัฒนาพนักงานของบริษัทอเมซอนให้มีทักษะที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะทักษะทางด้านเทคโนโลยี ถึงแม้ว่าพนักงานคนนั้นจะไม่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีมาก่อนเลยก็ตาม

ทั้งนี้ (ประเด็นอยู่ตรงนี้) Amazon จะไม่รอสถาบันการศึกษาผลิตคนมาให้ เพราะสถาบันการศึกษาผลิตมาให้ "ไม่ทัน" และ "ไม่ตรง" กับความต้องการของ Amazon

มหาวิทยาลัยทุกวันนี้ "ตีโจทย์" ว่าบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ที่รับคนเข้าทำงานจำนวนมาก ๆ เขาต้องการ "คน" แบบไหน มีความรู้และทักษะอะไรบ้าง ทั้ง Soft Skills และ Hard Skills

การตั้งคำถามกับตัวเองเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหา

1. ทุกวันนี้เรากำลังผลิตคนแบบไหนออกไป?
2. คนที่เราผลิตออกไปทำอะไรได้บ้าง?
3. คนที่เราผลิตออกไปมี mindset อย่างไร?
4. ภูมิทัศน์ของการศึกษา (educational ecosystem) ของเราเป็นอย่างไร?
5. เรามีอะไรที่ต้องจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงไหม? ต้องรีบด่วนขนาดไหน? ต้องเปลี่ยนองค์ประกอบอะไรบ้าง? นโยบายภายในสถาบันการศึกษาเองต้องเปลี่ยนไหม? นโยบายรัฐต้องเปลี่ยนไหม?

TRUE ลุกขึ้นมาทำ Park เพื่อสร้าง Ecosystem ให้เกิดการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ บริษัทหลายแห่งลุกขึ้นมาทำ co-working space


จะว่าไปแล้ว มันชวนให้ย้อนรำลึกไปถึงสิ่งที่เรียกว่า "โต๊ะ" ใต้ถุนตึกและตามสวนของคณะต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย

โต๊ะนี่แหละเป็น co-working space ของเราเมื่อ 30 ปีที่แล้ว นักศึกษานิเทศศาสตร์ ตัดกระดาษ วาดโปสเตอร์ เขียนสคริปต์ เขียนสปอคโฆษณา ซ้อมละคร ก็ที่โต๊ะใต้ถุนคณะนี้แหละ เป็นแหล่งความคิดสร้างสรรค์ เป็นแหล่งสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักศึกษา

ถ้าเป็นคณะนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ "โต๊ะ" ก็คือ co-working space ในการพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนะทางกฎหมายและการเมืองกัน

เรามีสิ่งดีๆ มีคุณค่าหลายอย่าง แต่ที่ขาดไปคือการ ประยุกต์ การต่อยอดทางความคิด และการปฏิบัติ

กินกาแฟอเมริกาโนร้าน Amazon แล้วคุยกันต่อเรื่อง Amazon ที่อเมริกาต่อไป คนไทยเก่งหลายอย่าง คนไทยทำได้ ถ้าคิดจะทำ เรามักจะทำได้เสมอ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือวิจัย

การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือวิจัย รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฐฐ์วัฒน์  สุทธิโยธิน 9 มิถุนายน 2559             การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือวิจัย เป็นขั้นตอนที่สำคัญของการสร้างเครื่องมือวิจัยให้มีคุณภาพ สามารถนำไปใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อวัดตัวแปรได้ถูกต้อง แม่นยำ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ มีความเชื่อถือได้ ซึ่งผู้วิจัยควรดำเนินการตามลำดับขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1. การตรวจสอบเครื่องมือวิจัยเบื้องต้น             การตรวจเครื่องมือวิจัย สอบเบื้องต้น มีสิ่งสำคัญที่ผู้วิจัยต้องปฏิบัติ ดังต่อไปนี้             1.1 การตรวจสอบเชิงโครงสร้างของเครื่องมือวิจัย ผู้วิจัยต้องตรวจสอบว่า เครื่องมือวิจัยที่ตนเองสร้างขึ้นมานั้น มีความครอบคลุม มีความครบถ้วน ตามวัตถุประสงค์ของการวิจัยทุกข้อหรือไม่ ถ้ายังไม่ครบต้องดำเนินการสร้างเครื่องมือวัดให้ครบ             1.2 การตรวจสอบเชิงแนวคิด ผ...

ทฤษฎีเกี่ยวกับจิตสำนึก (Consciousness) การสร้างจิตสำนึก และการปลูกฝังจิตสำนึก

ทฤษฎีเกี่ยวกับจิตสำนึก (Consciousness) การสร้างจิตสำนึก และการปลูกฝังจิตสำนึก ........................................................................................................................................ จิตสำนึกคืออะไร? สร้างอย่างไร? ปลูกฝังอย่างไร? ความหมายของจิตสำนึก จิตสำนึก (Consciousness) หมายถึง ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึกตระหนัก และการให้ความสำคัญ ต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นในระบบความคิดและจิตใจของมนุษย์ ลักษณะของจิตสำนึก จิตสำนึกเป็นสภาวะที่ผสมผสานกันระหว่าง ความรู้ความเข้าใจ ความคิด และความรู้สึก การเกิดจิตสำนึก จิตสำนึก (Consciousness) เกิดจากการรับรู้ การเรียนรู้ การประเมินค่า จากสิ่งเร้าต่าง ๆ ประสบการณ์ จนเกิดเป็นความตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนั้น สิ่งเร้าที่มนุษย์รับรู้ เรียนรู้ จนพัฒนามาเป็นจิตสำนึก ประกอบด้วยข้อมูลข่าวสาร ประสบการณ์ อารมณ์ สภาพสังคม และวัฒนธรรม ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเกิดจิตสำนึก 1. การรับรู้ 2. ทัศนคติ 3. ประสบการณ์ 4. ระยะเวลาในการรับรู้ ความถี่ ความต่อเนื่อง ผลของ...

นวัตกรรม ตอนที่ 4 กระบวนการสร้างนวัตกรรม

บทนำ การสร้างนวัตกรรมมีลักษณะเป็นกระบวนการ กระบวนการสร้างนวัตกรรมเป็นการสร้างการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการหลัก 4 กระบวนการ คือ           1. กระบวนการสร้างความคิด (Idea generation)           2. กระบวนการสร้างโอกาส (Opportunity recognition)           3. กระบวนการพัฒนา (Development)           4. กระบวนการทำให้เป็นจริง (Realization)             การสร้างนวัตกรรมเป็นเรื่องที่องค์กรจะต้องมีวิสัยทัศน์ มีเป้าหมาย และมีกลยุทธ์ในการดำเนินการ การสร้างนวัตกรรมมีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดการสร้างนวัตกรรมใหม่ขึ้นมา ในการนำเสนอเนื้อหาตอนนี้ที่ว่าด้วยกระบวนการสร้างนวัตกรรม จะได้กล่าวถึงเป้าหมายของการสร้างนวัตกรรม การเปลี่ยนแปลงกับการสร้างนวัตกรรม และกระบวนการสร้างนวัตกรรม เป้าหมายของการสร้างนวัตกรรม การสร้างนวัตกรรมมีเป้าหมาย...