ท่าน..
"เกิดเหตุร้ายอีกในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้..คนร้ายลอบวางระเบิดข้างทาง ทีอำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ทหารพรานกองร้อยที่ ทพ.435 บาดเจ็บสาหัส 5 นาย.."
"..คล้อยหลังไม่ถึงชั่วโมง เกิดเหตุระเบิดซ้ำ ห่างจากจุดเดิมหนึ่งร้อยเมตร แรงระเบิดทำให้ทหารชุเก็บกู้ระเบิด EOD ได้รับลาดเจ็บ 3 นาย ผู้สื่อข่าวอีก 5 ท่าน ที่ติดตามไปทำข่าวได้รับบาดเจ็บ และตามที่มีกระแสข่าวว่า ผู้สื่อข่าวทั้ง 5 ท่านเสียชีวิตนั้น จากการตรวจสอบล่าสุดยืนยันว่า ผู้สื่อข่าวทั้ง 5 ท่านไม่ได้เสียชีวิต เพียงแค่ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ส่งตัวไปทำแผลเรียบร้อยแล้ว อาการปลอดภัย ส่วนทหาร EOD ชุดเก็บกู้ระเบิดทั้ง 3 นาย ที่บาดเจ็บก็อยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว.."
"..เหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่จะมีการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล 20 แห่งในวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ อาจเป็นการสร้างสถานการณ์ปั่นป่วนในพื้นที่.."
"หญืงเหล็ก พิราบขาว.. รายงานจากอำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส"
เสียงผู้สื่อข่าวหญิงรายงานข่าวมาจากแดนใต้ ทางสถานีวิทยุคงามถี่เกินร้อย เมื่อวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2556 เวลาประมาณ 14.35 น. เหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นสร้างความตกใจและเสียใจแก่ญาติพี่น้องของทหารและผู้สื่อข่าวที่ได้รับบาดเจ็บ
ขณะเดียวกันรายงานข่าวชิ้นนี้ก็สร้างความรู้สึกสะดุดใจ ในการใช้ถ้อยคำเรียกขานสรรพนามของบุคคล และเรียกขานหน่วยนับ ของบุคคลที่แตกต่างกัน ระหว่างการกล่าวถึง "ทหาร" และ "ผู้สื่อข่าว"
นี่ไม่ใช่การจับผิด ไม่ใช่การจุกจิก หยุมหยิม ในเรื่องเล็กน้อย
แต่เป็นเรื่องที่สะท้อนความรู้สึกนึกคิด ค่านิยม ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมในภาษาพูดของคนไทย
ซึ่งเกิดในแทบทุกสาขาอาชีพ รวมทั้งการใช้ภาษาพูดในชีวิตประจำวันของเรา
ตัวอย่างเช่น เราพูดคุยสอบถามลูกค้าที่มาทานอาหารว่า "กี่ท่านคะ?"
เราพูดคุยกับ คนที่โทรศัพท์มาจองที่นั่งในการประชุมสัมมนาว่า "จองกี่ท่านคะ?"
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา จนเราคุ้นเคย และ เคยชิน จนเราเรียกรวมกันว่า "คุ้นชิน"
มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โต มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร
มันเป็นเพียงข้อสังเกตว่าด้วย "จิตใต้สำนึก" ของมนุษย์
มันเป็นเพียงข้อคิดสำหรับคนทำงานสื่อสารมวลชน
ว่าเราควรเป็นต้นน้ำที่ดีอย่างไร
ว่าเราควรเป็นต้นแบบที่ดีอย่างไร
ว่าเราควรเป็นตัวอย่างที่ดีอย่างไร
เท่านั้นเองครับ "ท่าน"
18 ตุลาคม 2556
หมายเหตุ
1. บทความนี้ไม่มีเจตนาล้อเลียน หรือจับผิดการทำงานของสื่อมวลชนที่เสี่ยงภัยอยู่ชายแดนใต้ ตรงกันข้าม ผมเคารพนับถือในความกล้าหาญเสียสละของผู้สื่อข่าวทุกคน และรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างสูงต่อผู้สื่อข่าวทุกๆคนด้วยใจจริง
2. การที่ผมหยิบยกเรื่องนี้มาพูดถึงเป็นเพียงกรณีตัวอย่าง เพื่อประการการวิเคราะห์เท่านั้น หากสร้างความรู้สึกกระทบกระเทือนใจ ผมต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และหากบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปรับปรุง และพัฒนาอยู่บ้าง ผมก็ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
3. ข้อมูลตามข่าวที่อ้างถึงเป็นข้อเท็จจริงที่ผู้เขียนได้ยินมาเองจากสื่อวิทยุ
เพียงแต่ข้อมูลตัวเลขอาจเคลื่อนบ้าง ต้องขออภัย เพราะไม่ใช่ประเด็นหลักของบทความนี้นะครับท่าน
4. ผมรักและเคารพในความเป็น "ทหาร" "ผู้สื่อข่าว" และ "วิชาชีพสื่อมวลชน"
"เกิดเหตุร้ายอีกในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้..คนร้ายลอบวางระเบิดข้างทาง ทีอำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ทหารพรานกองร้อยที่ ทพ.435 บาดเจ็บสาหัส 5 นาย.."
"..คล้อยหลังไม่ถึงชั่วโมง เกิดเหตุระเบิดซ้ำ ห่างจากจุดเดิมหนึ่งร้อยเมตร แรงระเบิดทำให้ทหารชุเก็บกู้ระเบิด EOD ได้รับลาดเจ็บ 3 นาย ผู้สื่อข่าวอีก 5 ท่าน ที่ติดตามไปทำข่าวได้รับบาดเจ็บ และตามที่มีกระแสข่าวว่า ผู้สื่อข่าวทั้ง 5 ท่านเสียชีวิตนั้น จากการตรวจสอบล่าสุดยืนยันว่า ผู้สื่อข่าวทั้ง 5 ท่านไม่ได้เสียชีวิต เพียงแค่ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ส่งตัวไปทำแผลเรียบร้อยแล้ว อาการปลอดภัย ส่วนทหาร EOD ชุดเก็บกู้ระเบิดทั้ง 3 นาย ที่บาดเจ็บก็อยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว.."
"..เหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่จะมีการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล 20 แห่งในวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ อาจเป็นการสร้างสถานการณ์ปั่นป่วนในพื้นที่.."
"หญืงเหล็ก พิราบขาว.. รายงานจากอำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส"
เสียงผู้สื่อข่าวหญิงรายงานข่าวมาจากแดนใต้ ทางสถานีวิทยุคงามถี่เกินร้อย เมื่อวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2556 เวลาประมาณ 14.35 น. เหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นสร้างความตกใจและเสียใจแก่ญาติพี่น้องของทหารและผู้สื่อข่าวที่ได้รับบาดเจ็บ
ขณะเดียวกันรายงานข่าวชิ้นนี้ก็สร้างความรู้สึกสะดุดใจ ในการใช้ถ้อยคำเรียกขานสรรพนามของบุคคล และเรียกขานหน่วยนับ ของบุคคลที่แตกต่างกัน ระหว่างการกล่าวถึง "ทหาร" และ "ผู้สื่อข่าว"
นี่ไม่ใช่การจับผิด ไม่ใช่การจุกจิก หยุมหยิม ในเรื่องเล็กน้อย
แต่เป็นเรื่องที่สะท้อนความรู้สึกนึกคิด ค่านิยม ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมในภาษาพูดของคนไทย
ซึ่งเกิดในแทบทุกสาขาอาชีพ รวมทั้งการใช้ภาษาพูดในชีวิตประจำวันของเรา
ตัวอย่างเช่น เราพูดคุยสอบถามลูกค้าที่มาทานอาหารว่า "กี่ท่านคะ?"
เราพูดคุยกับ คนที่โทรศัพท์มาจองที่นั่งในการประชุมสัมมนาว่า "จองกี่ท่านคะ?"
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา จนเราคุ้นเคย และ เคยชิน จนเราเรียกรวมกันว่า "คุ้นชิน"
มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โต มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร
มันเป็นเพียงข้อสังเกตว่าด้วย "จิตใต้สำนึก" ของมนุษย์
มันเป็นเพียงข้อคิดสำหรับคนทำงานสื่อสารมวลชน
ว่าเราควรเป็นต้นน้ำที่ดีอย่างไร
ว่าเราควรเป็นต้นแบบที่ดีอย่างไร
ว่าเราควรเป็นตัวอย่างที่ดีอย่างไร
เท่านั้นเองครับ "ท่าน"
18 ตุลาคม 2556
หมายเหตุ
1. บทความนี้ไม่มีเจตนาล้อเลียน หรือจับผิดการทำงานของสื่อมวลชนที่เสี่ยงภัยอยู่ชายแดนใต้ ตรงกันข้าม ผมเคารพนับถือในความกล้าหาญเสียสละของผู้สื่อข่าวทุกคน และรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างสูงต่อผู้สื่อข่าวทุกๆคนด้วยใจจริง
2. การที่ผมหยิบยกเรื่องนี้มาพูดถึงเป็นเพียงกรณีตัวอย่าง เพื่อประการการวิเคราะห์เท่านั้น หากสร้างความรู้สึกกระทบกระเทือนใจ ผมต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และหากบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปรับปรุง และพัฒนาอยู่บ้าง ผมก็ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
3. ข้อมูลตามข่าวที่อ้างถึงเป็นข้อเท็จจริงที่ผู้เขียนได้ยินมาเองจากสื่อวิทยุ
เพียงแต่ข้อมูลตัวเลขอาจเคลื่อนบ้าง ต้องขออภัย เพราะไม่ใช่ประเด็นหลักของบทความนี้นะครับท่าน
4. ผมรักและเคารพในความเป็น "ทหาร" "ผู้สื่อข่าว" และ "วิชาชีพสื่อมวลชน"
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น