ข่าวกลบข่าว.ยุทธวิธีทางการเมืองเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
ในทางการสื่อสาร..ผู้คนสงสัยว่าผู้มีอำนาจรัฐเขาทำอย่างนี้จริงหรือ ?
จากประสบการณ์ตรงที่ผมเคยผ่านมา..ผมเชื่อว่าจริง..
"การปล่อยข่าว"..เป็นยุทธวิธีการสื่อสาร..ที่ใช้มาตลอด..เรื่องแล้ว เรื่องเล่า..ปล่อยมาครั้งใด จะเกิดกระแสมวลชนโลกโซเชียลมีเดีย..ลุกขึ้นมาต้าน..การต้านเป็นเรื่องไม่ผิด มันเป็นสิทธิ์โดยสมบูรณ์..แต่มันได้ผลกระทบข้างเคียง..คือลดกระแสความสนใจของสังคมที่ควรจะมีต่อ "ประเด็นหลัก" ที่สังคมควรจะมี ตัวอย่างเช่น กรณีตำรวจนครบาลออกมาแถลงข่าวเรื่อง มีแนวคิดจะเสนอนโยบายห้ามรถยนตร์อายุ 7-10 ปี เข้ามาวิ่งในเขต กทม. เรื่องนี้แถลงโดย รองผบช.น.คนหนึ่ง การให้บุคคลระดับนี้ออกมาแถลงข่าวเองแปลว่า "เป็นเรื่องสำคัญ" และ "เป็นเรื่องใหญ่". แต่ที่น่าสนใจคือ ช่วงเวลาที่กำลังมีการแถลงข่าว เป็นช่วงเวลาที่มีเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองสองเรื่อง การประชุมสภาในวาระที่สำคัญมากๆ และการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่รายล้อมทำเนียบรัฐบาลอยู่ และก็ได้ผล "ปลากินเบ็ด"เพียงไม่กรี่ชั่วโมงให้หลัง เกิดกระแสต่อต้านในโลกโซเชียลมีเดียหลายหมื่นคน จนเกิดการทำเพจต่อต้าย..เรื่องนี้เป็นหลักฐานยืนยันว่า "การสร้างข่าวใหม่" เพื่อกลบข่าวปัจจุบัน และเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชน เป็นเรื่องจริง!!
อย่ามองว่าเป็นเรื่องเล็ก น่ารำคาญ..เพราะมันมี "คนคิดแบบนี้จริงๆ" โดยเฉพาะทีมงาน Political Communication Task Force..ของฝ่ายอำนาจรัฐ คิดทุุกวัน วางแผนทุกวัน ดำเนินงานทุกวัน
ในโลกการสื่อสารการเมือง..ไม่มีข่าวสารอะไรเกิดขึ้นโดยบังเอิญ หากแต่มี "การออกแบบ" (Design) แม้กระทั่งชุดแต่งกายและทรงผมของท่านผู้นำรัฐบาลก็ต้องออกแบบ เพื่อสร้างเสริมบุคลิกภาพให้สัมพันธ์กับ "ตำแหน่ง" และ "อำนาจ"
สถานที่ที่จะต้องเดินทางไป ไปแล้วจะได้พบกับใคร จะอุ้มเด็กตรงไหน กอดเด็ก รักเด็กอย่างไร จะค้อมตัวลงไปหาคุณยายวัย 80 ปีอย่างไร ล้วนมีการจัดเตรียม (จัดฉาก) ไว้ล่วงหน้า จริงอยู่ที่ส่วนมากอาจจะเป็นการพบเจอโดยบังเอิญแต่ที่แน่ๆ "ส่วนหนึ่ง" มีการออกแบบเตรียมการไว้..เราจะสังเกตเห็นว่าหลายเรื่องมิได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
การสื่อสารการเมือง คือ การวางแผน การออกแบบ การดำเนินการ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการเมืองเสมอ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น