เส้นแห่งทางความสำเร็จ..เส้นทางแห่ง ความไม่สำเร็จ
สายที่ 1 (1) เรียน/สอบผ่าน (2) ทำวิทยานิพนธ์ (3) อบรมเข้ม = จบปริญญาโท
สายที่ 2 (1) เรียน/สอบผ่าน (2) ทำ IS (3) อบรมเข้ม = จบปริญญาโท
..มาถึงจุดนี้..ทุกคนคงเห็นแล้ว ว่า ขั้นที่ 1 และขั้นที่ 3 ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยสักนิด เรียน-ทำรายงาน-สัมมนา-สอบ เป็นไปตามสเต็ป
..ด่านที่ต้องทดสอบตัวเองคือข้อ (2) วิทยานิพนธ์ หรือ IS ..พบแล้วใช่มั๊ยครับว่ามันไม่ง่ ายเหมือนตอนเรียนรายวิชา..
..ความยากของ วิทยานิพนธ์ หรือ IS..อยู่ที่
(1) ไม่สามารถนำเอาทฤษฎีที่ได้ร่ำเร ียนมา เอามาใช้เป็นกรอบแนวคิดในการวิจ ัยได้ ตรงนี้น่าจะเป็นด่านยากที่สุด แม้สอบได้ A ชุดวิชา ปรัชญาและทฤษฎีการสื่ือสาร ก็ไม่ได้หมายความว่าจะนำมาใช้ใน การวิจัยได้ เพราะการเรียนชุดวิชาได้จบลงไปแ ล้ว คนเก่งทฤษฎีจึงไม่ได้แปลว่าจะเก ่งวิจัย ที่สำคัญคือ ต้องเก่งในการ "นำทฤษฎีไปประยุกต์ใช้" ต่างหาก
(2) ไม่สามารถออกแบบการวิจัยได้ดี ไม่รู้จักตัวแปรที่จะศึกษาอย่าง ถ่องแท้ และออกแบบการวัดตัวแปรไม่เป็น
(3) ก. วิจัยเชิงปริมาณ ไม่รู้จะนำสถิติอะไรมาใช้ วิเคราะห์ไม่เป็น จะวิเคราะห์ความแตกต่าง วิเคราะห์ความสัมพันธ์ วิเคราะห์ผลกระทบ ไม่เข้าใจว่างานของตนเองจะวิเคร าะห์อะไรกันแน่
ข. วิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลได้ไม่รอบด้าน ไม่ลึกจริง เหมือนที่เคยบอกว่าจะ "สัมภาษณ์เชิงลึก" เอาเข้าจริงกลายเป็น "สัมภาษณ์เชิงตื้น"
ส่วนที่ยากที่สุกของวิจัยเชิงคุ ณภาพคือ การวิเคราะห์ข้อมูลและการสร้างข ้อสรุป (ตรงนี้การวิจัยเชิงปริมาณจะง่า ยกว่า เพระาใช้คอมพิวเตอร์) ซึ่งต้องแปลความหมาย สรุปความหมาย โดยต้องอาศัยความสามารถของผู้วิ จัยอย่างมาก
(4) ส่วนที่ยากอันดับสี่คือ "ทำไปแบบมึนๆ" ทำไปแบบงงๆ" และ "ทำไปแบบไม่รู้เรื่อง"
(ถ) ส่วนที่ยากที่สุดและมีปัญหามากท ี่สุด ไม่ว่าจะเป็นวิจัยเชิงปริมาณ หรือ วิจัยเชิงคุณภาพ คือ "จิตใจ" ของคนทำ ได้แก่
ก. การไม่สามารถบังคับควบคุม "ความสนใจ" ของตนเองให้ทำวิทยานิพนธ์ได้
ข. การ "หันไปสนใจเรื่องอื่น" ที่ใกล้ตัว ง่ายกว่า สนุกกว่า เร็วกว่า เรียกว่า "วอกแวก"
ค. การขาดความต่อเนื่อง ทำๆ หยุด ต้องนับหนึ่งใหม่บ่อยๆ งานไม่เดิน หรือเดินช้ามาก
ง. การ "นอกใจ" วิทยานิพนธ์ หันไป "คบ" เรื่องอื่นแทน เช่น แฟน คนรัก ของรัก สิ่งที่รัก
จ. หมดแรงใจ
ข้อคิดดังกล่าวข้างต้นนี้ ฝากไว้ให้สำหรับผู้ที่คิดว่ากำล ังมีปัญหาในการทำวิทยานิพนธ์ ส่วนใครที่ทำได้ดีอยู่แล้ว ไม่เข้าข่ายมีปัญหา ไม่จำเป็นต้องอ่าน
ด้วยความปรารถนาดี
24 พฤศจิกายน 2556
สายที่ 1 (1) เรียน/สอบผ่าน (2) ทำวิทยานิพนธ์ (3) อบรมเข้ม = จบปริญญาโท
สายที่ 2 (1) เรียน/สอบผ่าน (2) ทำ IS (3) อบรมเข้ม = จบปริญญาโท
..มาถึงจุดนี้..ทุกคนคงเห็นแล้ว
..ด่านที่ต้องทดสอบตัวเองคือข้อ
..ความยากของ วิทยานิพนธ์ หรือ IS..อยู่ที่
(1) ไม่สามารถนำเอาทฤษฎีที่ได้ร่ำเร
(2) ไม่สามารถออกแบบการวิจัยได้ดี ไม่รู้จักตัวแปรที่จะศึกษาอย่าง
(3) ก. วิจัยเชิงปริมาณ ไม่รู้จะนำสถิติอะไรมาใช้ วิเคราะห์ไม่เป็น จะวิเคราะห์ความแตกต่าง วิเคราะห์ความสัมพันธ์ วิเคราะห์ผลกระทบ ไม่เข้าใจว่างานของตนเองจะวิเคร
ข. วิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลได้ไม่รอบด้าน ไม่ลึกจริง เหมือนที่เคยบอกว่าจะ "สัมภาษณ์เชิงลึก" เอาเข้าจริงกลายเป็น "สัมภาษณ์เชิงตื้น"
ส่วนที่ยากที่สุกของวิจัยเชิงคุ
(4) ส่วนที่ยากอันดับสี่คือ "ทำไปแบบมึนๆ" ทำไปแบบงงๆ" และ "ทำไปแบบไม่รู้เรื่อง"
(ถ) ส่วนที่ยากที่สุดและมีปัญหามากท
ก. การไม่สามารถบังคับควบคุม "ความสนใจ" ของตนเองให้ทำวิทยานิพนธ์ได้
ข. การ "หันไปสนใจเรื่องอื่น" ที่ใกล้ตัว ง่ายกว่า สนุกกว่า เร็วกว่า เรียกว่า "วอกแวก"
ค. การขาดความต่อเนื่อง ทำๆ หยุด ต้องนับหนึ่งใหม่บ่อยๆ งานไม่เดิน หรือเดินช้ามาก
ง. การ "นอกใจ" วิทยานิพนธ์ หันไป "คบ" เรื่องอื่นแทน เช่น แฟน คนรัก ของรัก สิ่งที่รัก
จ. หมดแรงใจ
ข้อคิดดังกล่าวข้างต้นนี้ ฝากไว้ให้สำหรับผู้ที่คิดว่ากำล
ด้วยความปรารถนาดี
24 พฤศจิกายน 2556
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น